เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสมาชิก Gear8 (Thailand) ได้มีโอกาสไป Outing กับสมาชิกฝั่งญี่ปุ่นและไต้หวันกันที่นิเซโกะ เกาะฮอกไกโดกันมาค่ะ จริงๆแล้วบริษัท Gear8 จะมีการจัดทริป Outing ที่ญี่ปุ่นเพื่อให้สมาชิกของแต่ละประเทศได้มีโอกาสพบปะกันและร่วมกันทำ workshop และได้ใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน สำหรับปีนี้กำหนดการ Outing เป็นช่วงหน้าร้อนพอดีทางฝั่งญี่ปุ่นเลยเกิดไอเดียกิจกรรมพิเศษขึ้นคือการให้สาวๆ Gear8 ทั้งหมดแต่งชุดยูกาตะกันค่ะ หลายคนคงจะรู้จักหน้าตาของชุดยูกาตะกันแล้ว บทความจะขอข้ามการอธิบายความเป็นมาของตัวชุด หรือความต่างของยูกาตะกับกิโมโน ไปพูดถึงสิ่งที่สาวๆน่าจะสนใจมากกว่ากันเลยละกันค่ะ สิ่งที่จะมาแชร์วันนี้เป็น tips เล็กๆน้อยๆที่ได้จากสาวๆ Gear8 ฝั่งญี่ปุ่นเกี่ยวกับการเลือกและการ styling ชุดยูกาตะให้เข้ากับตัวเองกันค่ะ!
1. การเลือกชุด
ชุดยูกาตะเป็นชุดที่ใส่ในหน้าร้อน จะดูมีความลำลองกว่าชุดกิโมโน ลวดลายก็จะหลากหลายทั้งแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นไปจนถึงลาย pop culture ที่มีความสมัยใหม่ รวมถึงแบรนด์เสื้อผ้าหรือนักวาดภาพต่างๆมักจะทำ collection ลายยูกาตะออกมาให้เห็นกันทุกปีๆ วันนี้จะเอา tips ในการเลือกยูกาตะให้เข้ากับตัวเองที่ได้จากคุณ Yamada แพลนเนอร์จากฝั่งญี่ปุ่นมาแชร์ให้ฟังกันค่ะ
1.1 การเลือกสี : สำหรับใครที่มีสีในใจที่อยากใส่อยู่แล้วก็ข้ามบทความนี้แล้วลุยเลยค่ะ! เพราะท้ายที่สุดการได้ใส่อะไรที่เราชอบหรืออะไรที่เรามั่นใจก็ทำให้เราดูดีที่สุดในแบบของตัวเองแล้ว
แต่ใครที่ไม่รู้จะเลือกอะไรจริงๆ สาวๆญี่ปุ่นบอกว่าเวลาเลือกสีเค้าจะคำนึงถึงอายุกับสีผิวก่อน ถ้าเป็นเด็กๆหรือวัยรุ่นมักจะใส่สีพาสเทลหรือสีที่สว่างสดใส เมื่ออายุมากขึ้นก็จะลดหลั่นความฉูดฉาดของเฉดสีลงไป ถ้าอยากได้ลุคผู้ใหญ่ก็มักจะเลือกสี เข้มๆมืดๆกันค่ะ สำหรับผิวขาวโดยมากแล้วค่อนข้างเข้าได้กับทุกสี แต่ถ้าใส่สีเข้มอย่างสีครามหรือแดงแก่ก็จะช่วยขับผิวให้ดูขาวยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนสาวผิวสีน้ำผึ้งแบบสาวไทย คุณยามาดะแนะนำสี warm tone เช่นสีโทนขาว เหลือง หรือส้ม จะช่วยให้ดูสว่างและสดใสเหมาะกับบุคลิกร่าเริงของคนไทย ส่วนสีที่ควรเลี่ยงหรับสาวผิวสีน้ำผึ้งคือสีน้ำเงินและสีดำค่ะ สำหรับสาวผิวเข้มจะเหมาะกับยูกาตะใดก็ได้ที่สีพื้นเข้มเช่นน้ำเงิน แต่ควรมีลายที่เป็นสีโทนขาวหรือสีสว่างมากมาตัดกับสีพื้นอีกที หากต้องการสีพื้นสว่างสาวผิวเข้มจะเหมาะกับยูกาตะสีเหลืองหรือชมพู
แต่ต้องเป็นเหลืองหรือชมพูที่เป็นโทนจัดจ้านสดใส
1.2 การเลือกลายผ้า : ในส่วนของลวดลายชุดยูกาตะประมาณ 80% มักจะเป็นลายดอกไม้ ส่วนลายที่เป็นที่นิยมอื่นๆอีกก็จะมีพวกลวดลายที่มาจากใบไม้ ลวดลายแบบ retro ซึ่งมักจะเป็นทรงเลขาคณิต หรือถ้าลวดลายรูปสัตว์ก็มักจะเป็นปลาทองหรือผีเสื้อ เมื่อเลือกลวดลายที่ชอบแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงหน่อยคือขนาดของลวดลาย ถ้าสาวคนไหนส่วนสูงค่อนข้างจัดอยู่ในเกณฑ์น่ารักจุ๋มจิ๋มควรหลีกเลี่ยงลวดลายใหญ่ๆ เพราะจะทำให้ยิ่งดูตัวเล็กลงไปอีก โดยมากแล้วสาวญี่ปุ่นตัวจิ๋วๆ ที่อยากได้ลุคสาวหวานน่าทนุถนอมมักจะเลือกลายที่ดูสว่างๆซอฟๆมากกว่าลายที่มีสีตัดกันชัดเจน ส่วนสาวที่ตัวสูงมักจะเลือกลวดลายที่มีสีสันตัดกันชัดเจน และขนาดของลายต้องไม่เล็กเพราะจะทำให้ดูอวบขึ้นได้
1.3 การเลือกผ้าคาดโอบิ : สำหรับการเลือกผ้าคาดโอบิก็มักจะอิงจากสีชุดยูกาตะที่เลือกมาก่อน สาวๆญี่ปุ่นมักจะเลือกสีโอบิจากสีที่มีอยู่ในลวดลายของตัวชุดยูกาตะ เพื่อคุมโทนให้ไปในทิศทางเดียวกัน แต่บางคนก็จะเลือกสีที่ไม่มีอยู่ในลวดลายชุดยูกาตะเพื่อต้องการทำให้โอบิดูเด่นขึ้นมา แต่จะเลือกสีที่ ไม่ใช่สีพื้นของชุดยูกาตะเด็ดขาดเพราะจะทำให้กลืนกันไปหมดทั้งชุด ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากโทนการแต่งหน้ากับลุคที่ตัวเองเลือกก่อนแล้ว เช็คดูว่าสีกับลวดลายโอบิว่าไปด้วยกันได้มั้ย
2. ทรงผม
สำหรับสาวผมยาวจะแนะนำให้รวบหรือเกล้าผมให้หมด เพราะสาวญี่ปุ่นเชื่อว่ายูกาตะจะเป็นชุดที่ใส่แล้วไม่ค่อยเห็นทรวดทรงก็จริง แต่เสน่ห์ของยูกาตะคือการที่คอเสื้อ ตกลงมาเพื่อโชว์หลังคอ ซึ่งสำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วถือว่าเป็นอะไรที่เซ็กซี่มากๆ ดังนั้นทรงผมที่สาวญี่ปุ่นทำเลยมักจะเป็นทรงอะไรก็ตามที่เผยให้เห็นหลังคอ สำหรับสาวผมสั้นไม่ต้องน้อยใจไป ถึงสาวผมยาวจะมีทรงที่เน้นสวย เน้นความเป็นผู้หญิง หรือมีความเซ็กซี่ก็จริง แต่ทรงผมสั้นก็จะให้ลุคที่น่ารักสดใสไปอีกแบบนึง ซึ่งใส่ accessories ประดับผมเพิ่มหรือถักเปียด้านข้างเล็กน้อยก็จะได้ลุคสาวหวานสุดน่ารักแล้ว ส่วนสาวผมสั้นที่ไม่อยากได้ลุคน่ารักสดใสก็แต่งหน้าเฉี่ยวๆทาปากแดงสู้ แค่นี้ก็ได้ลุคที่เซ็กซี่ไม่แพ้กันแล้วค่ะ การเลือกทรงผมไม่มีกฏตายตัวอะไรก็จริง แต่สาวๆต้องระวังเครื่องประดับของตัวเองไม่ให้เยอะไปนะคะ
3. รองเท้า
รองเท้าที่เข้ากับชุดยูกาตะที่สุดยังไงก็ต้องเป็นเกตะหรือเกี๊ยะเท่านั้น ซึ่งเกตะที่ใส่กับชุดยูคาตะของผู้หญิงกับผู้ชายก็ไม่เหมือนกันนะคะ สำหรับใครที่ไม่มีเกี๊ยะและไม่ได้ชื่นชอบการใส่เกี๊ยะแล้วก็อย่าลำบากไปหาซื้อมาเพื่อใส่กับยูกาตะเลยค่ะ นอกจากเกี๊ยะแล้วสาวๆญี่ปุ่นบางคนก็ใส่รองเท้าแตะน่ารักๆ มาคู่กับยูกาตะเหมือนกัน แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าต้องเป็นประเภทรองเท้าแตะหรือ sandals เท่านั้น รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าชนิดอื่นถือว่าคุณแม่ไม่ปลื้มค่ะ ตอนที่สองสาว Gear8 Thailand ได้ยินว่าต้องเอารองเท้าแตะไปก็มีความงอแงกันเล็กน้อยว่าเอาไปเพื่อใส่กับชุดแค่ไม่กี่ชม.เองเนี่ยนะ !? แต่สาวๆฝั่งญี่ปุ่น ก็ยืนกรานเสียงแข็งว่าห้ามใส่รองเท้าผ้าใบหหรือรองเท้าหนังกับชุดยูกาตะเด็ดขาด! จนพวกเราต้องยอมเอารองเท้าแตะไปใส่โดยดีค่ะ ฮา~
ได้ทราบ tips กันไปคร่าวๆแล้วลองมาดูผลงานการ styling ของยามาดะซังในกิจกรรมครั้งนี้เลยดีกว่า!
ยูกาตะที่ได้มาในครั้งนี้เป็นยูกาตะที่สมาชิก Gear8 ฝั่งญี่ปุ่นมีอยู่แล้วเอามาแชร์ๆแบ่งๆกันใส่ โดยคนที่จัดการ styling ชุดให้กับทุกคนก็คือคุณยามาดะ ส่วนทรงผมของสาวๆทุกคน คุณโอคิโนะก็เป็นคนออกแบบลงมือทำผมให้กับทุกคนเลย ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่จำกัดมากๆ ตอนแรกที่ยามาดะซังลองจับแมทช์ชุดกับโอบิให้ ยังแอบคิดอยู่เลยว่าจะพังมั้ยเนี่ย!? แต่พอแต่งออกมาแล้วรู้สึกว่าเข้ากับบุคลิกของทุกคนมากๆเลยล่ะค่ะ สาวๆคนไหนอยากไปแต่งชุดยูกาตะหน้าร้อนที่ญี่ปุ่น นั่งจิบเบียร์ดูดอกไม้ไฟชิลๆละก็อย่าลืมลองจำ tips ที่กล่าวมาไปเลือกชุดยูกาตะที่เข้ากับตัวเองดูนะคะ ส่วนใครที่อยากลองเช่าชุดยูกาตะในไทย ตอนนี้ดูเหมือนจะมีร้านเช่าชุดยูกาตะเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อน สามารถลองไปดูและเลือกชุดยูกาตะที่ถูกใจมาเช่าใส่ได้นะคะ
จบไปแล้วกับ tips เล็กๆในการเลือกชุดยูกาตะ แต่ถ้ามีใครสนใจชุดกิโมโนสามารถเข้าไปเยี่ยมชมอีกหนึ่งลูกค้าที่น่ารักของ Gear8 Thailand อย่างร้าน Siam Wasou ได้ที่ https://siamwasou.net นะคะ คุณยูกะให้บริการเช่าชุดกิโมโน สอนการสวมใส่ชุดกิโมโน และมีฉากห้องญี่ปุ่นให้เช่าสำหรับการถ่ายภาพหรือวิดีโอด้วย
สำหรับบทความนี้ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ 🙂
